หัวใจหลักแนวคิดเศรษฐศาสตร์การผลิตของการตัดเฉือนสมัยใหม่
หลักการ Productivityเป็นที่ยอมรับและเป็นมาตรฐานสากล |
![]() |
สูตรการคำนวณตัวแปรมาตรฐานในการทำ Productivity**
สามารถใช้ได้ทุกเครื่องมือในการทำโครงการ
• Productivity พื้นฐาน ![]() ![]() |
• Partial (ส่วนเดียว) เช่นแรงงานหรือพลังงาน![]() |
• OEE (ถ้าประยุกต์กับเครื่องจักร) ![]() — ประสิทธิภาพรวมของเครื่องจักรที่ มักรวมเป็นตัววัดสำหรับการปรับปรุงสมรรถนะ |
• อัตราการตัดเนื้อวัสดุ (Material Removal Rate, MRR)
![]() — MRR=Vc x Fn x Ap |
• ต้นทุนต่อชิ้น (Cost per part) การคำนวณทั่วไป
![]() — • รวมต้นทุนวัสดุ แรงงาน เวลาเครื่องจักร ค่าเครื่องมือ และพลังงาน |
• ต้นทุนต่อชิ้น (Cost per part) + ค่าตัวความเสี่ยง ERC ต่อความเสียหาย ![]() — :
Cmachine = ค่าเครื่องจักร/ชั่วโมง |

"หา Productivity ก่อน Cost Per Part(CPP) เพื่อประเมินความน่าจะเป็น"
ทำไมต้องวางแผน Productivity ก่อน?
1. เครื่องจักร CNC มีค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงสูง --> ถ้าทดลองจริงโดยไม่วางแผน จะเสียต้นทุนเครื่องจักรและแรงงานทันที
2. เครื่องมือตัดมีราคาไม่ใช่ถูก --> โดยเฉพาะ PcBN, Ceramic, PCD ถ้าใช้ผิดจะหมดไปโดยไม่เกิดคุณค่า
3. ของเสีย (Scrap) = ต้นทุนมหาศาล --> ชิ้นงานบางอุตสาหกรรม (Aerospace, Medical) ต้นทุนชิ้นละหลายหมื่น ถ้าล้มเหลว 1 ครั้ง = ขาดทุนทันที
4. Productivity ที่ไม่ได้วางแผน มักได้ ความเร็วสูงสุด แต่ต้นทุนไม่ต่ำสุด
Tips :: ดังนั้น Productivity Planning คือการหาสมดุลก่อนเริ่มจริง
---------------------------------------------------------------------
ในสายการผลิตจริง วิธีทำแบบมาตรฐานที่นิยมใช้กัน ได้แก่ :
1. Simulation การทำโปรแกรม CNC (option or program)จำลองเดินเครื่อง
• จำลอง cutting data และ tool path ล่วงหน้า --> ลด trial & error
• ตรวจสอบ collision, optimize feed/speed
2. Productivity Calculation จากข้อมูลปัจจุบันก่อนประเมินทดสอบ
• ใช้สูตร CPP, MRR, Tool Life (Taylor’s Equation) --> คำนวณจุดคุ้มค่า
• หาจุดที่ Cost per Part ต่ำสุด ไม่ใช่แค่ Machining time ต่ำสุด
3. Pilot Run (ทดสอบจริง เก็บตัวอย่างเช็ค Cp ,Cpk)
• ทำการทดสอบกับชิ้นงานจำนวนน้อยเพื่อยืนยันผล
• บันทึกค่า Tool wear, Surface finish, Cycle time
4. Full Implementation
• หลังได้ข้อมูลจริง + Simulation --> เริ่มใช้งานจริงใน production line
ผลลัพธ์: Production Economy --> Productivity --> CPP ต้องเริ่มจากการ วางแผน Productivity ก่อนลงมือจริง เพราะจะช่วยให้ได้ “จุดคุ้มค่า” ที่ดีที่สุด ลดความเสี่ยงและของเสีย และพิสูจน์ได้ด้วยตัวเลข CPP ว่าการลงทุน“คุ้มค่า” ก่อนทดสอบจริง